หน้าเว็บ

จับเข่าคุย ผอ.ปาล์ม

จับเข่าคุย
ผอ.ปาล์ม
“บุรุษผู้ร่วมสร้างความเจริญวัดไผ่ล้อม
ให้เป็นวัดแถวหน้าของนครปฐม”
.........................


ผอ.ธีรภัทร์ ตุ้มทองคำ หรือที่คนนครปฐมส่วนใหญ่ เรียกขานกันว่า ผอ.ปาล์ม นับเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ที่เข้ามาช่วยงานด้านคอมพิวเตอร์และสถานีวิทยุไผ่ล้อมเรดิโอ และในทุกวัน ผอ.ปาล์ม ต้องเข้าร่วมประชุมกับหลวงพี่บ่อยครั้ง ถ้าเรียกแบบภาษาชาวบ้านคือ จับเข่าคุยกันเกือบทุกวัน
ผอ.ปาล์มเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์กว้างไกล ร่วมเดินไปต่างประเทศกับหลวงพี่หลายครั้ง แล้วนำปรับกลับมาใช้ที่วัดไผ่ล้อมในหลายกรณี
วันนี้ ผอ.ปาล์มมาจับเข่าคุยกับหลวงพี่เรื่องประเทศสิงคโปร์
“หลวงพี่ครับในเอเชียนี่ ผมว่าสิงคโปร์เติบโตเร็วสุดแล้วครับ”
“ผอ.ปาล์ม ต้องอย่าลืมนะว่า สิงคโปร์สังคมเป็นระเบียบมาก ประชากรเค้ามีคุณภาพสูง ด้านบริหารจัดการก็เยี่ยมยอด”
“เรื่องนั้นผมไม่เถียงครับ แต่ทั้งหมดที่ผ่านมา ล้วนเกิดจากฝีมือของ ลีกวนยู ผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์และนายกรัฐมนตรีคนแรกของประเทศนี้”
“ผอ.ปาล์มกำลังจะบอกหลวงพี่ ว่าลีกวนยูเก่ง จริงหรือไม่”
“หลวงพี่ครับ ลีกวนยู ของจริงครับ สมองปราดเปรื่อง วิธีคิดไม่เหมือนใคร หากจะมีคำสองคำในโลกที่ไม่สามารถแยกกันได้ คำคู่นั้นต้องเป็นสิงคโปร์กับลีกวนยู เฉกเช่นวัดไผ่ล้อมหลวงพ่อพูลต้องคู่กับหลวงพี่น้ำฝนเท่านั้น”
ผอ.ปาล์ม ธีรภัทร์ ตุ้มทองคำ วิศกรรมหนุ่มชาวนครปฐม ซึ่งทำงานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้าและคอมพิวเตอร์มานาน ได้จับเข่าสนทนากับหลวงพี่ แบบล้วงลึกทุกแง่ทุกมุม บ่อยครั้งมากที่สุด มากกว่าศิษย์คนสนิทหลายคน
ถ้าอยากรู้เรื่องหลวงพี่ ต้องไปถาม ผอ.ปาล์ม รู้กระทั่งวิธีคิดของหลวงพี่ ว่าคิดอย่างไร มีรูปแบบการบริการและการปกครองคณะสงฆ์ภายในวัดแบบไหน จึงทำให้วัดไผ่ล้อม พัฒนาเจริญจนผงาดขึ้นมาเป็นวัดอันดับต้นๆวัดหนึ่งของนครปฐมได้อย่างรวดเร็ว
......................................
สร้างความร่มเย็น ปีพ.ศ.๒๕๕๒ เมื่อได้รับการแต่งตั้งให้เป็นคณะกรรมการสถานศึกษา หลวงพี่น้ำฝนไม่นิ่งนอนใจ เข้าไปดูโรงเรียนวัดไผ่ล้อมเกือบทุกวัน เพราะท่านตระหนักในคำว่า พูลประชาอุปถัมภ์ 
สิ่งแรกที่สานต่อคือการตบแต่งอาคารเอนกประสงค์ให้สะอาดเรียบร้อย เพิ่มเติมเสริมประโยชน์ให้นักเรียนได้สามารถใช้งานได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม 
น้ำไหล ไฟสว่าง แอร์เย็น ห้องเรียนสะอาด ครูดีมีวินัยเอาใจใส่ลูกศิษย์ ท่านปลูกฝังอบรมครูที่เป็นพ่อพิมพ์แม่พิมพ์ของชาติ 
จากอดีตที่เคยทำงานกันแบบเช้าชามเย็นชาม หลวงพี่น้ำฝนมอบนโยบายให้ขยันยิ่งขึ้นกว่าเดิม เพิ่มเติมเอาใจใส่ดูแลเด็กทุกคน ให้เหมือนลูกหลานตนเอง สอนเด็กให้เรียนรู้โลกกว้าง ไม่ใช่ให้เป็นกบอยู่ในกะลา สอนกันแบบเดิมๆเหมือนที่ผ่านมา ครูควรกระตือรือร้น กว่าเก่าอีกหลายเท่าตัว
พอไปตรวจโรงเรียน ช่วยเด็กช่วยครู ให้ความรู้มอบวิสัยทัศน์ เสร็จแล้วก็ต้องเดินกลับมาวัด กลับมามองวัดตัวเอง ดูว่าบ้านตัวเองดีพอแล้วหรือยัง มิใช่ไปสอนเขาปาวๆ แต่ที่วัดไม่แยแสดูแล
ที่วัดไผ่ล้อมเพลานี้ หลวงพี่น้ำฝนเห็นโยมมากราบสังขารหลวงพ่อพูล บางรายบ่นร้อน นั่งอยู่ในศาลาเหงื่อแตกพลั่กๆไปตามๆกัน เพราะอากาศเมืองไทยไม่เอื้ออำนวย
หลวงพี่น้ำฝนท่านจึงรีบสั่งช่างแอร์ ให้มาดำเนินการตบแต่งศาลาศาลาการเปรียญปุริมานุสรณ์ ทำการติดเครื่องปรับอากาศในทันที งานนี้ก็เลยทำให้ญาติโยมที่มาวัดได้มีที่พักพิง สบายกายสบายใจ ชื่นเย็นฉ่ำอุรา หาความสำราญในรสพระธรรม ได้อย่างมีความสุข ได้รับศีล ฝึกสมาธิ เกิดสติปัญญาที่ดี กลับไปประกอบสัมมาอาชีพ มีอารมณ์ที่แจ่มใส สร้างสรรค์กำลังใจให้กับครอบครัวอย่างมั่นคงถาวรเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป
หลวงพี่น้ำฝนท่านเป็นพระที่มองไกล ใจถึง พึ่งได้ คำกล่าวอ้างนี้ คณะสงฆ์ล้วนรู้กันทั่วทั้งจังหวัด ถ้าท่านว่างจากงานในวัด ก็ไปช่วยงานคณะสงฆ์จังหวัด 
เห็นอะไรไม่ดีไม่งามก็ไปกราบเรียนเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะจังหวัด ที่เป็นหัวหน้าสายงานเจ้าคณะปกครองโดยตรง 
เมื่อจังหวัดมีงานอะไรทั้งงานหลวงงานราษฏร์ หลวงพี่น้ำฝนเสนอตัวเข้าไปช่วยงานทุกครั้ง โดยไม่รอรับคำสั่ง 
สิ่งใดที่เป็นงานของคณะสงฆ์ส่วนรวม ที่เกี่ยวข้องกับความสมัครสมานสามัคคี ท่านยินดีทำด้วยความจริงใจ
และในฐานะที่หลวงพี่น้ำฝนเป็นพระวินยาธิการ หรือตำรวจพระในเขตอำเภอเมืองนครปฐม เห็นพระต่างถิ่นที่มาเรี่ยไร พระที่ทำผิดพระธรรมวินัย 
เมื่อท่านได้รับคำสั่งให้ลงพื้นที่ หลวงพี่น้ำฝนและทีมงานจะเข้าไปไถ่ถามนิมนต์นำตัวมาให้เจ้าคณะตำบลอบรมลงโทษในทุกกรณี 
ผลจากการทำหน้าที่ขันแข็ง งานที่ทำล้วนไปเข้าตาคณะสงฆ์ทั้งจังหวัด รวมถึงพระวินยาธิการทุกอำเภอ จากนั้นเมื่อมีการจัดประชุมใหญ่ จึงได้เสนอชื่อพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน ให้เป็นหัวหน้าพระวินยาธิการจังหวัดนครปฐม ท่านน้อมรับตำแหน่งด้วยความเต็มใจ เพราะมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตนเอง
งานแรกที่เข้ารับตำแหน่ง ท่านพุ่งเป้าไปที่เริ่มจากการตรวจปัสสาวะพระสงฆ์ทุกรูปเริ่มจากวัดในแต่ละอำเภอ เน้นเพื่อตรวจหาสารเสพติด แล้วก็นำพระเหล่านนั้นมาบำบัดเยียวยาช่วยเหลือรักษาให้เลิกยาในที่สุด 
โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากทุกภาคส่วน ส่งผลให้หลวงพี่น้ำฝน ได้รับการยกย่องให้เป็นตำรวจพระที่ต้องใจเข้ามาทำงานให้คณะสงฆ์จังหวัดนครปฐมสะอาดบริสุทธิ์ นับเป็นนิมิตหมายอันดี ที่เริ่มจากการล้างบ้านตัวเองให้สะอาดปราศจากมลทิน
ปลายปี ๒๕๕๒ หลวงพี่น้ำฝนยังคงมองการณ์ไกล ระดมทุนก้อนใหญ่ ตั้งขึ้นเป็นกองทุนเพื่อการศึกษา นำดอกผลมาจรรโลงมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนโรงเรียนในจังหวัดนครปฐม เกือบทุกโรงเรียน ตั้งแต่ระดับประถม มัธยม อาชีวะ จวบจนถึงระดับมหาวิทยาลัย
ด้วยจิตใจของพระนักสู้เพื่อการศึกษา ถึงแม้จะไม่ใช่นักวิชาการ แต่หลวงพี่น้ำฝน มีพยายามเรียนรู้เทคโนโลยี เพื่อให้ธรรมะเข้าถึงญาติโยมชาวบ้านทุกหย่อมหญ้า 
เกิดปรากฏการณ์ใหม่ในจังหวัดนครปฐม ท่านสร้างสถานีวิทยุไผ่ล้อมเรดิโอ ๙๑.๗๕ มายด์เรดิโอ ๙๓.๒๕ เพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปสู่ญาติโยมทุกหย่อมหญ้าได้อย่างถาวร ต่อเนื่อง เข้าถึงและลงลึกในรายละเอียดที่สมบูรณ์ต่อไป
จากนั้นท่านก็จุดประกายมองโลกให้ไกลไปกว่าเดิม ด้วยการดำเนินการจัดตั้ง มูลนิธิหลวงพ่อพูล ขึ้นที่วัดไผ่ล้อม โดยสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติได้พิจารณา อนุญาตให้ดำเนินจัดตั้งได้ เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒ และเมื่อได้จัดตั้งแล้ว ท่านได้ปฏิบัติตามคำสั่งสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ และข้อบังคับสภาวัฒนธรรมแห่งชาติอย่างเคร่งครัด
มูลนิธิหลวงพ่อพูล จัดตั้งขึ้นโดยหลวงพี่น้ำฝน สมบูรณ์อย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถวายความกตัญญูกตเวที และสร้างสรรค์จรรโลงสังคม ตามแนวปณิธานของพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณ พระมงคลสิทธิการ หลวงพ่อพูล อัตตะรักโข อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จังหวัดนครปฐม โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักธรรมของพระพุทธศาสนา ส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย และสนับสนุน ช่วยเหลือ การศึกษา การกีฬา การดนตรี แก่นักเรียนที่ยากจน ส่งเสริมให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ทัศนศึกษาทางธรรม 
เพื่อดำเนินการหรือร่วมมือกับองค์การกุศลอื่นๆ เพื่อสาธารณประโยชน์ ให้การสงเคราะห์แก่เด็กผู้ยากไร้ คนพิการและคนชรา ให้การสนับสนุนกิจกรรมเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรมในการดำเนินชีวิตของเยาวชน ให้การสนับสนุนโครงการรณรงค์เพื่อสุขภาพอนามัยและสวัสดิภาพของประชาชน
โดยไม่ข้องเกี่ยวกับการเมืองแต่อย่างใด
สำหรับโครงการต่างๆ ที่มูลนิธิหลวงพ่อพูล ได้ดำเนินการขึ้นนี้ ประกอบด้วย โครงการศูนย์ส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมวัดไผ่ล้อม เพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย อาทิเช่น ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย สอนให้เรียนรู้มารยาทไทย และสากล
นาฏศิลป์ไทย สอนรำ สอนเต้น เพื่อเสริมทักษะให้เยาวชนมีความกล้าในด้านการแสดงออก โดยเฉพาะนาฏศิลป์ไทยและสากล ที่เป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นภูมิปัญญาไทยที่เยาวชนสมควรเรียนรู้เป็นอย่างยิ่ง
โครงการสถานีวิทยุไผ่ล้อมเรดิโอ FM ๙๑.๗๕ Mhz มายด์เรดิโอ FM ๙๓.๒๕ Mhz คลื่น สาระ ธรรมะข่าวสาร และความบันเทิง คลื่นก้าวไกล รับฟังได้ทั่วโลกผ่านทาง 
www.watpailom.org เพื่อเป็นการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ถ่ายทอดสาระที่เป็นประโยชน์สู่ประชาชนในทุกชุมชนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีงามสืบต่อไป 
โครงการคอมพิวเตอร์ อินเตอร์เน็ต เพื่อฝึกทักษะเยาวชนในการเรียนรู้ ใช้เวลาว่างฝึกฝนด้านคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี และมีประโยชน์สูงสุดในด้านการศึกษาให้พัฒนาก้าวไกล ทันโลกก้าวทันเหตุการณ์
โครงการห้องซ้อมดนตรีและห้องบันทึกเสียง เพื่อให้เยาวชนได้ฝึกฝนเสริมทักษะในการเล่นดนตรีอย่างถูกต้อง ถูกวิธี เพื่อหลีกเลี่ยงอบายมุข และห่างไกลจากยาเสพติด ซึ่งกิจกรรมนี้นับเป็นการรังสรรค์ ดึงเยาวชนที่มีพรสวรรค์นำมาฝึกฝนเพื่อการแสดงออกให้ถูกที่ถูกทางและสร้างอนาคตในอาชีพอย่างมีระเบียบแบบแผนมากยิ่งขึ้น
โครงการดังกล่าวนี้ หลวงพี่น้ำฝนในฐานะประธานมูลนิธิหลวงพ่อพูล ท่านสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อประโยชน์แก่เยาวชนให้ห่างไกลจากยาเสพติด และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นับว่าเป็นโครงการที่ผลักดันเยาวชนให้เกิดทักษะ เกิดความตื่นตัว เกิดความตั้งใจ รู้ผิดชอบชั่วดี มีความกตัญญูกตเวที และเพื่อให้เกิดมีใจรักในกิจกรรมต่างๆ ของมูลนิธิหลวงพ่อพูล สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน….
....ได้อย่างเป็นรูปธรรมตลอดไป